ประวัติศาลจังหวัดสีคิ้ว
สืบเนื่องด้วยจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทยประชากรมากเป็นอันดับ ๒ ของประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ห่างไกลตัวจังหวัดและ มีความจำเป็นจะต้องติดต่อราชการกับศาล กระทรวงยุติธรรมในสมัยนั้น จึงดำเนินการเปิดศาลชั่วคราวเคลื่อนที่ขึ้น ๒ แห่ง คือที่อำเภอบัวใหญ่และอำเภอปากช่อง สำหรับศาลชั่วคราวเคลื่อนที่อำเภอปากช่องมีเขตอำนาจเฉพาะท้องที่อำเภอปากช่องเท่านั้น ทำให้ประชาชนที่อยู่ในเขตท้องที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอด่านขุนทด และอำเภอสูงเนิน ซึ่งมีระยะทางใกล้เคียงกับ อำเภอปากช่องต้องไปติดต่อราชการ ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา เป็นการไม่สะดวกและเสียเวลา ตลอดจนเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ต่อมาวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๑๙ นายประสาร ด่านกุล สมาชิกสภาจังหวัดนครราชสีมา เขตอำเภอสีคิ้ว มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมขอตั้งศาลถาวรขึ้นที่อำเภอสีคิ้ว กระทรวงยุติธรรมได้มอบให้อธิบดี ผู้พิพากษาภาค ๓ รวบรวมข้อมูล ในที่สุดเห็นว่าอำเภอสีคิ้วเป็นจุดศูนย์กลางระหว่างอำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนินและอำเภอด่านขุนทด ทั้งสี่อำเภอมีจำนวนประชากรมากและอยู่ห่างไกลตัวจังหวัด มีสถิติคดีความสูง สมควรจัดตั้งศาลจังหวัดขึ้นที่อำเภอสีคิ้ว เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๒๔ คณะรัฐมนตรี มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอสีคิ้วที่เสนอโดย นายสมบูรณ์ จีระมะกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา ครั้นวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๒๕ จึงได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดสีคิ้ว มีเขตอำนาจตลอดท้องที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน และอำเภอด่านขุนทดหลังจากนั้นกระทรวงยุติธรรมจึงได้ดำเนินการของบประมาณก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลจังหวัด สีคิ้วพร้อมบ้านพักบนที่ดินสาธารณประโยชน์ที่พลเมืองใช้สอยร่วมกัน (ทุ่งเลี้ยงสัตว์) ประจำหมู่บ้าน มูลตุ่น หมู่ ๙ ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีเนื้อที่ ๓๐ ไร่เศษ เริ่มทำการก่อสร้าง เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๕ กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๒๗ อาคารที่ทำการศาลจังหวัดสีคิ้วเป็นอาคารทรงไทย ๒ ชั้น ขนาด ๘ บัลลังก์ ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันเสาร์ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ และมีพิธีเปิดอาคารที่ทำการศาลในวันศุกร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๒๗ โดย ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้เป็นประธานในพิธีทั้งสองครั้งดังกล่าว